วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2560

พริก

พลูคาว (Plu Kaow) ชื่อ
ความเผ็ดของพริกมาจากสารชื่อ “แคปไซซิน” (Capsaicin) ซึ่งจะมีอยู่มากใยบริเวณเยื่อแกนกลางสีขาว (คือส่วนเผ็ดมากที่สุด) ส่วนเปลือกและเมล็ดนั้นจะมีสารนี้น้อย ซึ่งคนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่าส่วนเมล็ดและเปลือกคือส่วนที่เผ็ดที่สุด และสารชนิดนี้จะทนทานต่อความร้อนและความเย็นอย่างมาก แม้จะนำมาต้มให้สุดหรือแช่แข็งก็ไม่ได้ทำให้สูญเสียความเผ็ดไปแต่อย่างใด โดยเราสามารถเรียงลำดับความเผ็ดของพริกจากมากไปหาน้อยได้ คือ พริกขี้หนู > พริกเหลือง > พริกชี้ฟ้า > พริกหยวก > พริกหวาน เป็นต้น
หน่วยวัดความเผ็ดเดิมคือ สโควิลล์ (Scoville) (เป็นคำที่ตั้งขึ้นตามชื่อผู้คิดค้นวิธีการวัดระดับ ซึ่งก็คือ วิลเบอร์ สโควิลล์ นักเคมีชาวอเมริกัน) โดยพริกขี้หนูสวนบ้านเราจะมีค่าอยู่ที่ 50,000-100,000 สโควิลล์ ส่วนพริกที่ได้รับการบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊กว่าเผ็ดที่สุดในโลกก็คือ พริกฮาบาเนโร วัดค่าได้ถึง 350,000 สโควิลล์หรือมากกว่า
พริกอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ อย่าง วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินซี ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุเหล็ก ใยอาหาร เป็นต้น โดยในพริก 100 กรัม จะมีวิตามินซีสูงถึง 144 มิลลิกรัมเลยทีเดียว !
หากต้องการลดความเผ็ดร้อนของพริกคุณควรรับประทานอาหารที่มีไขมันหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากกว่าที่จะดื่มน้ำ เพราะการดื่มน้ำจะมีผลเพียงแค่ช่วยให้บรรเทาอาการแสบร้อนได้เท่านั้น แต่ความเผ็ดยังคงอยู่ สำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานพริกเพราะอาจจะทำให้กรดไปกัดแผลในกระเพาะอาหารได้ และสำหรับเด็กและผู้สูงอายุที่มักจะสำลักง่ายก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเช่นกัน และควรจะระวังพริกป่นตามร้านอาหาร พริกซองที่อาจจะมีสารอะฟลาทอกซินปนอยู่ ซึ่งเป็นสารพิษที่เกิดจากเชื้อรา หากร่างกายได้รับอย่างต่อเนื่องอาจจะเกิดการสะสมจนกลายเป็นมะเร็งตับในที่สุด ดังนั้นควรเลือกรับประทานพริกป่นที่สะอาด ไม่มีเชื้อราและเปลี่ยนบ่อย ๆ ทุก ๆ 3 วันพร้อมทั้งการจัดเก็บในภาชนะที่แห้งและสะอาด
พริกประโยชน์ของพริก

ประโยชน์ของพริก

  1. พริกมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย
  2. ช่วยให้อารมณ์ดี ทำให้ร่างกายสร้างสาร Endorphin (สารแห่งความสุข)
  3. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
  4. วิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
  5. ช่วยในการบำรุงและรักษาสายตา
  6. ช่วยกระตุ้นให้เจริญอาหารยิ่งขึ้น
  7. สารแคปไซซินช่วยให้เกิดอาการตื่นตัวของร่างกาย
  8. ช่วยในการดีท็อกซ์ของร่างกาย
  9. พริกช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ลดน้ำมูก และลดเสมหะ
  10. ช่วยบรรเทาอาการไอช่วยลดสารที่มากีดขวางระบบทางเดินหายใจอันเนื่องมาจากการเป็นไข้หวัด ไซนัส หรือโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ
  1. ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเลือดออกตามไรฟัน
  2. ช่วยให้หายใจได้สะดวกยิ่งขึ้น
  3. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง และความเผ็ดของพริกมีส่วนช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งได้
  4. ช่วยลดปริมาณสารคอเลสเตอรอลในร่างกาย ทำให้ปริมาณของไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดลดลง
  5. ช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด เส้นเลือดสมองอุดตัน
  6. ช่วยในการสลายลิ่มเลือด
  7. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว
  8. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของหลอดเลือดให้ดียิ่งขึ้น
  9. ช่วยลดความดันโลหิต
  10. ช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรง ช่วยเพิ่มการยึดตัวของผนังหลอดเลือด
  11. ช่วยขยายเส้นโลหิตในลำไส้และกระเพาะอาหารเพื่อการดูดซึมอาหารที่ดีขึ้น
  12. สาร Capsaicin ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร
  13. ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายของเสียและนำธาตุอาหารไปยังเนื้อเยื่อในร่างกาย
  14. ช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย ขับแก๊สในกระเพาะ
  15. มีส่วนช่วยในการขับปัสสาวะ
  16. ช่วยป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ ในบริเวณจมูก ลำคอ ปอด เยื่อบุผนังช่องปาก
  17. ช่วยไม่ให้เมือกเสีย ๆ มาจับตัวกันภายในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายด้วย
  18. ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดต่าง ๆ เช่น อาการปวดฟัน เจ็บคอ การอักเสบของผิวหนัง อาการปวดศีรษะ ปวดเส้นเอ็น โรคเกาต์ ข้อต่ออักเสบ เป็นต้น
  19. พริกช่วยกระตุ้นให้อยากอาหารมากขึ้น
  20. ใช้ในการประกอบอาหาร ปรุงแต่งอาหาร
  21. นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ เช่น พริกแห้ง พริกป่น พริกดอง ซอสพริก เครื่องแกง น้ำพริกต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์ยารักษาโรค
การประกอบอาหาร
Photo

ข้าวไข่ข้นกุ้งผัดพริกขี้หนู

ส่วนผสม

  1. ==ส่วนผสมไข่ข้น
  2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  3. น้ำปลา 1/4 ช้อนชา
  4. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  5. ข้าวสวย 1 จาน
  6. นมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ
  7. ==ส่วนผสมกุ้งผัดพริกขี้หนู
  8. กุ้ง ปริมาณตามชอบ
  9. พริกขี้หนู 1 ช้อนชา
  10. กระเทียม 2 ช้อนชา
  11. น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
  12. น้ำปลา 1 ช้อนชา
  13. น้ำตาล 1/4 ช้อนชา

วิธี

ตั้งกระทะน้ำมัน ใส่กระเทียมสับ พริกขี้หนูสับลงผัดให้หอม ใส่กุ้งลงผัดให้สุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ผัดให้เข้ากัน ตักขึ้นพักไว้
ผสมไข่ไก่ นมข้นจืดและน้ำปลา คนพอเข้ากัน เตรียมไว้ ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่ไข่ลงในกระทะคนเล็กน้อย ทิ้งไว้ให้ไข่มีลักษณะข้น ๆ อย่าให้สุกมาก ยกลง
ตักไข่วางบนข้าวสวย ราดด้วยกุ้งผัดพริก ตกแต่งด้วยผักชี จัดเสิร์ฟ

                                             เมนูอื่นๆ---คลิก---

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น